31.1.51

ไขมัน - ความอ้วน - โรคร้าย

ไขมัน - ความอ้วน - โรคร้าย

ทำไมคนที่ชอบกินอาหารมันๆ จึงมักอ้วน ? ทั้งนี้ก็เพราะร่างกายของคนเรา ประกอบด้วยเซลล์ไขมันประมาณ 3-4 เหมื่นเซลล์และเซลล์เหล่านี้จะทำหน้าที่เก็บไขมันส่วนเกินไว้ ในตัวมันเองชนิดไม่จำกัดจำนวนดังนั้นร่างกายสะสมไขมันส่วนเกินไว้เป็นจำนวนมากทำให้" อ้วน" และความอ้วนนี้ยังก่อให้เกิดผลพวงของอาการและโรคต่างๆ มากมายอาทิ
- อาการหายใจไม่อิ่ม เพราะไขมันจะสะสมบริเวณผนังหน้าท้องเมื่ออยู่ในท่านั่ง ปอดมีพื้นที่ในการขยายตัวน้อยลง

- ทำให้ข้อต่อต่างๆ ของร่างกายแบกรับน้ำหนักมากขึ้นโดยเฉพาะที่หัวเข่าจึงทำให้เป็นโรคเข่าเสื่อมก่อนวัย
- เมื่อจำป็นต้องรักษาโรคด้วยการผ่าตัดคนอ้วนจะเกิดโรคแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด และแผลจะหายซ้าและติดเชื้อได้ง่าย
- ทำให้การตอบสนองของอินซูลินของร่างกายลดต่ำลงอินซูลินเป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ควบคุมน้ำตาลในกระแสเลือดคนอ้วนจะมีโอกาศเป็นโรคเบาหวานได้มากขึ้น
-ทำให้ตับสร้างคอเลสเตอรอนและไตรกลีเซอร์ไรด์เพื่มขึ้นและมีโอกาศเป็นนิ่วในทางเดินน้ำดีเพิ่มขึ้น และไขมันจะไปสะสมที่ผนังเส้นเลือดและเลือดยังไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆได้น้อยลงทำให้เกิดความดันโลหิตสูง หัวใจขอดเลือด เส้นเลือดในสมองตีบ
- ความอ้วนอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งของลำใส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก ตับอ่อนและมะเร็งปอดในผู้สูบบุหรี่
สรุปโดยรวมแล้วนอกจากจะไม้มีประโยชน์และยังจะบั่นทอนสุขภาพให้เสื่อมโทรมและเสียชีวิตก่อนวัยอันควรการลดความอ้วนให้รูปร่างสมส่วนก็เปรียบเสมือนเป็นการต่ออายุให้ตัวเอง

26.1.51

แข่งเปตองแล้ว

ก่อนแข่ง
หน้าสมาคม

.... เย้ .. ดีจัยจังได้แข่งเปตองแล้ว ได้เข้ารอบ 3 ด้วย


แต่..ก้อน่าเสีบดายที่อดได้ถ้วยเลย อีกนิดเดียว


ม่ายเปงรัยปีหน้าแข่งไหม


แต่..ก้อม่ายรู้ว่าอาจารย์


จะหั้ยแข่งอีกหรือป่าว


แต่พวกเราอยากแข่งอีก เพราะสนุกดีอ่ะ


และได้รู้จักกับเพื่อนที่เปงคู่แข่งด้วย สนุกดีอ่ะ .....





เปตอง



20.1.51

สำนวนในภาษาฝรั่งเศส ( จาก www.rn.ac.th/kk )

« Aller à vau - l'eau. » : Aller à sa perte, péricliter. [ไปสู่ความสูญเสีย, ตกอยู่ในอันตราย]
« L' avoir dans le baba. » : Se faire avoir, Rater quelque chose, Subir un échec. [โดนหลอก, ล้มเหลว]
« Avoir les boules. » : Être très énervé, En avoir assez, Avoir peur. [หงุดหงิด, เบื่อ, กลัว]
« As de pique. » : Personne à l'apparence bizarre ou mal habillée. [คนที่มีลักษณะแปลกๆ หรือ แต่งตัวไม่ดี]
« La boîte de Pandore » : La source des ennuis. L'origine de malheurs, de catastrophes. [ที่มาของปัญหา ความวุ่นวาย ความวิบัติ...]
« Bon vent ! » : 1. Bon voyage, bonne route, au revoir ! [ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ, ลาก่อน]2. Va-t'en, casse-toi ! [ไปได้แล้ว !]
« Épée de Damoclè » : Péril imminent et constant. Danger qui plane sur quelqu'un. [อันตรายที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ]
« En écraser. » : Dormir profondément. [หลับสนิท]

15.1.51

คำศัพท์



- la cuisine = ห้องครัว

- le placard = ตู้ติดฝาผนัง

- le frigo = ตู้เย็น (= le réfrigérateur)

- le robinet = ก๊อกน้ำ / l'évier (n.m.) = อ่างล้างจาน

- le four = เตาอบ / la cuisinière = เตาหุงต้ม

- le savon (de Marseille) = สบู่ล้าง(เครื่องใช้ในครัวเรือน) หรือ สบู่ที่ใช้อาบน้ำ
- la salle de bains = ห้องน้ำ

- la glace = กระจกเงา (= le miroir)

- la serviette (de toilette หรือ de bains) = ผ้าเช็ดตัว, ผ้าขนหนู

- le lavabo = อ่างล้างหน้า

- les toilettes (n.f. pl.) = ส้วม (le W.C [อ่าน : เว-เซ])

13.1.51

VOCABULAIRE

- un anorak = เสื้อสกี
- une blouse = เสื้อสตรี, ชุดใส่กันเปื้อน เช่นชุดพยาบาล
- un blouson = เสื้อแจ็กเกต
- des bas = ถุงน่อง, ถุงเท้ายาว
- un bustier = ชุดสตรีแบบยกทรงไม่มีสาย
- un bermuda = กางเกงขาสั้นแบบยาวถึงเข่า
- un béret = หมวกเบเร่
- un bonnet = หมวก(แบบไม่มีขอบ)
- des bottes = รองเท้าบูต
- des bottines = รองเท้าหุ้มข้อเท้า
- des baskets = รองเท้ากีฬาแบบหุ้มข้อเท้า
- une chemise = เสื้อเชิ๊ต
- un chemisier = เสื้อเชิ๊ตสตรี
- une chemise de nuit = ชุดนอนสตรี
- une cravate = เนคไท
- un costume (un costume de sport) = ชุด, ชุดสูท
- un complet = ชุดสูท
- un corsage = เสื้อสตรี
- un collant = ถุงน่อง
- une culotte = กางเกงขาสั้น, กางเกงในสตรี
- des chaussures = รองเท้า
- des chaussettes = ถุงเท้า
- une casquette = หมวกแก๊ป
- une écharpe = ผ้าพันคอ
- un foulard = ผ้าพันคอ
- un gilet = เสื้อกั๊ก
- un gant = ถุงมือ
- un imperméable = เสื้อกันฝน
- une jupe = กระโปรง
- une jupette, une mini-jupe = กระโปรงสั้น
- une jupe-culotte = กางเกงกระโปรง
- un jean = กางเกงยีน
- un manteau = เสื้อโอเว่อร์โค๊ต
- un maillot (de corps) = เสื้อกล้าม
- un maillot de bain (d'une pièce, de deux pièces) = ชุดว่ายนํ้า
- un noeud papillon = โบว์เนคไท
- un pardessus = เสื้อโอเว่อร์โค๊ต
- un pantalon = กางเกงขายาว-
un pull(-over) = เสื้อเสวตเตอร์
- un polo = เสื้อเชิ๊ตถัก
- un pyjama = ชุดนอน
- un peignoir (un peignoir de plage) = ชุดใส่อยู่กับบ้าน, ชุดคลุมอาบนํ้า
- des pantoufles = รองเท้าใส่ภายในบ้าน
- une robe = กระโปรงชุด
- une robe du soir = ชุดราตรี
- une robe de nuit = ชุดนอนสตรี
- une robe de bal = ชุดเต้นรำ
- une robe de mariée = ชุดเจ้าสาว
- une robe de chambre = ชุดใส่อยู่กับบ้าน
- un short = กางเกงขาสั้น
- un slip = กางเกงใน
- un soutien-gorge = ยกทรง
- une salopette = ชุดเอี๊ยม
- un smoking = ชุดราตรีสุภาพบุรุษ
- des sandales = รองเท้าแตะ
- un tee-shirt = เสื้อทีเชิ๊ต
- un tricot = เสื้อเสวตเตอร์
- un tailleur = ชุดสูทสตรี
- une tenue (de soirée, de ville, de sport, de plage) = ชุด
- une veste = เสื้อสูท
- un veston = เสื้อสูท

11.1.51

การแต่งกายเกาหลีต้อนรับฤดูหนาวคร่า...



เสื้อผ้าเกาหลีต้อนรับฤดูหนาว
เทรนด์แฟชั่นเปลี่ยนไปตามสมัย "สไตล์เกาหลี" เตรียมยกตัวขึ้นเป็นเทรนด์เบอร์ 1 ของเมืองไทย พร้อมเบียดแฟชั่นแดนปลาดิบตกอันดับ ล่าสุดมีการเปิดสถาบันความงามแดนโสมครบวงจร ด้านแฟนพันธุ์แท้อาทิตย์อุทัยสวนทันควัน ไม่มีทางกลบกระแสได้ เทรนด์ญี่ปุ่นรวมตัวกันหนาแน่น และแฟชั่นแดนโสมก็ไม่มีเอกลักษณ์แน่นอน ผ่านมาแล้วก็คงผ่านไปเหมือนเทรนด์อื่นๆ กระแสความนิยมหนังเกาหลียังคงมาแรงในประเทศไทย ซึ่งด้วยความแรงนี้ทำให้เทรนด์ญี่ปุ่นเริ่มได้รับความนิยมน้อยลง วัยรุ่นหันมายึดสไตล์เกาหลีกันมากขึ้น ทั้งการแต่งหน้า แต่งตัว ล่าสุดกระแสเกาหลีได้เข้ามาตีตลาดเมืองไทยมากขึ้นอีก โดยมีการเปิดตัวสถาบันสอนแต่งหน้า แต่งตัวสไตล์เกาหลีโดยเฉพาะ เทรนด์แต่งหน้าสไตล์เกาหลีรับฤดูหนาวคือสโมกกี้ อาย เทรนด์ หรือเรียกว่า "เทรนด์ตาแมว" ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศเกาหลี ซึ่งการแต่งหน้าแบบนี้จะ เน้นการแต่งดวงตาให้มีความเซ็กซี่เหมือนตาแมว นอกจากการแต่งตาแล้ว การแต่งริมฝีปากและการลงเบสจะเน้นสีสันแบบธรรมชาติมากที่สุด ด้วยการเน้นลงพื้นในปริมาณที่น้อยเพื่อเผยผิวใส และใช้คอลซิลเลอร์เพื่อรอยหรือป้องกันขอบตาดำ
ส่วนวิธีแต่งแบบเทรนด์ตาแมวนั้น
• ตรงบริเวณดวงตาต้องไม่เน้นการแต่งสโมกกี้ให้ดูหนา
• แต่เน้นการเขียนขอบรอบดวงตาให้ชัดเจนและบางๆ • โดยใช้เฉดสีเทาที่เปลือกตาทั้งหมด • จากนั้นใช้สีน้ำเงินหรือม่วงทาทับลงไป
• โดยเน้นจุดไฮไลต์บนเปลือกตาเป็นสีเทาเพื่อเพิ่มจุดเด่น • และใช้อายแชโดว์สีดำเพื่อทำให้ดวงตาดูโตและโดดเด่น • หลังจากนั้นให้ปัดมาสคาร่าและติดขนตาปลอมเพื่อเพิ่มความหรูหรา • ตามด้วยริมฝีปากควรหลีกเลี่ยงลิปสติคที่ให้ประกายมันเงา• แต่ให้ใช้ลิปสติคที่มีสีคล้ายริมฝีปากเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด


--ปัจจุบันกระแสของภาพยนตร์เกาหลีได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชีย ส่งผลให้เทรนด์ในด้านความงาม ซึ่งรวมถึงการแต่งหน้า ทรงผม การแต่งกายสไตล์เกาหลีได้รับความนิยมตามไปด้วย ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เป็นศูนย์รวมแฟชั่น และยังไม่มีสถาบันการเรียนการสอนในสไตล์เกาหลีโดยตรง ดังนั้นเราจึงเป็นสถาบันแรกที่เปิดในประเทศไทย --



9.1.51

Pétanque


La pétanque est un jeu de boules dérivé du jeu provençal. C'est le sixième sport en France par le nombre de licenciés — 367 247 joueurs recensés ; il existe de nombreuses fédérations nationales affiliés à la fédération internationale : 567 283 licenciés répartis dans 70 pays au 31.12.2006, de l'Algérie au Vietnam. À ces chiffres, il convient de rajouter les pratiquants occasionnels, en vacances notamment, c'est-à-dire plusieurs millions d'amateurs.
C'est un sport principalement masculin (seulement 14 % des licenciés sont des femmes en France). Néanmoins, c'est l'un des rares sports où des compétitions mixtes sont organisées.

Historique
Le jeu de boules est aussi ancien que la civilisation des loisirs, passant d'Égypte en Grèce et aurait été introduit en Gaule par les romains. Les boules ont d'abord été en argile, en pierre, puis en bois et enfin en acier. Mais, après les « bouleurs » du Moyen âge, l'âge d'or des boules en tous genres fut certainement la Renaissance où la noblesse s'empare du jeu au même titre que le bilboquet et le jeu de paume (qui deviendra le tennis). Pour des raisons obscures, il semblerait que le jeu de boules ait été interdit au peuple de 1629 à la Révolution.
En 1850, la première société officielle, « le Clos Jouve », fut fondée dans la région de
Lyon puis, en 1906, la Fédération lyonnaise et régionale ouvre la voie en 1933 à la Fédération nationale des boules qui deviendra Fédération française de boules en 1942. Bien que regroupant nombre de jeux de boules (« boule des berges », « boule en bois », « jeu provençal »), la FFB fut dominée par le jeu de boule lyonnaise (128 000 joueurs en 1945), jusqu'au début du XXe siècle.
Au XIXe siècle, alors que chaque région, ou presque, introduit une variante d'usage, les Méridionaux se passionnent pour
la longue ou jeu provençal avec des règles simplifiées, le libre choix du terrain, mais où les tireurs font trois pas de course pour prendre leur élan. C'est ce jeu élégant et acrobatique que Marcel Pagnol décrit dans ses souvenirs d'enfance (Le temps des amours) et qui fut intégré dans le film Le château de ma mère.
En
1904, un alsacien du nom de Félix Rofritsch entreprit la fabrication des premières "boules cloutées" (en bois recouvert d'une carapace de métal, formée de clous) dans son atelier de la rue des Fabres, à Marseille, sous le label de "La Boule Bleue".
Le
jeu provençal donnera naissance en 1907 à la pétanque, lors de la partie historique à La Ciotat où un champion de jeu provençal, Jules Hugues dit « le Noir », ne pouvant plus jouer à son jeu préféré à cause de ses rhumatismes, s’est mis un jour, à tracer un rond, envoyer le but à 5-6 m, et, les « pieds tanqués », à jouer ses boules pour se rapprocher du cochonnet. Ceci se passait sur le terrain de boules d’un café "La boule étoilée" [terrain baptisé ainsi en clin d'œil aux boules cloutées de l'époque] dont les propriétaires s'appelaient Ernest et Joseph Pitiot. Les deux frères comprirent vite l'intérêt de ce sport, notamment Ernest qui s'appliqua à en finaliser les règles.
La pétanque était née !
Il faudra néanmoins attendre le premier concours officiel à
La Ciotat en 1910 pour que le mot soit officialisé. Le terme vient des mots de l'occitan provençal pè "pied" et tanca "pieu", donnant en français régional l'expression "jouer à pétanque" ou encore "pieds tanqués", c’est-à-dire avec les pieds joints et ancrés sur le sol, par opposition au jeu provençal où le joueur peut prendre de l'élan.
Les innovations sont les suivantes :On joue sur un terrain plus court ;le joueur lance sa boule sans élan ;les pieds joints, à partir d'un cercle tracé au sol.Ainsi, une idée généreuse et humanitaire (on songe aux paralympiques !), allait faire le tour du monde, même si son succès est probablement lié à la simplicité des règles.
La première boule en acier aurait été fabriquée en
1927 à Saint-Bonnet-le-Château, qui abrite à présent le Musée international pétanque et boules. La même année, les règles de la pétanque furent codifiées, mais ce n'est qu'en 1930 que les traditionnelles boules en bois cloutées furent remplacées par celles en acier. C'est à Jean Blanc que l'on doit cette évolution, et la marque J.B. existe toujours. En 1955, apparaissent également les premières boules Obut, bien connues.
La
Fédération française de pétanque et de jeu provençal (FFPJP) voit le jour le 31 juillet 1945 quand, forte de ses 10 000 membres, elle peut enfin quitter la section provençale de la FFB. Quant à la Fédération internationale, elle fut fondée le 8 mars 1958 à Marseille, même si c'est en Belgique, à Spa, que ses premières bases furent jetées, un an plus tôt.

8.1.51

กลอน.

No matter what they gossip about.Only two hearts never change.Though thousands of people I know. But, just you in my soul and sense. Trust in me that I'll never treat you bad. Don't be worry of this long distance. Cos I love you more than that.
ไม่ใส่ใจคำนินทาว่าร้ายของใครใครแค่สอง่ใจเรานั้นยังไม่เปลี่ยนผันแม้ว่าผู้คนที่คบหามีมากมายหลายร้อยพันแต่ว่ามันมีแต่คุณทั้งวิญญาณความรู้สึกให้นึกเชื่อว่าเมื่อไกลใจก็ยังห่วงไปหาอย่าสนว่าทางห่างไกลแล้วใจจะแปรผันเพราะผมมั่นรักแต่คุณเกินกว่าทางที่ห่างไกล


No need for anything challenge or anything that wasted.Having you here with me is the best. Please trust me that I'd never cheat on you. Life has enough happiness.'Cos the power of two, I love you my dearest.
ไม่ต้องการความท้าทายและไม่อยากเสียเวลาให้ไร้ค่าเพราะว่ามีคุณคนดีที่สุดแล้วในใจนี้ ผมไม่คิดจะไยดีใครคนใหม่วางใจได้สุขสดใสในชีวิตมีพอเพียงเพราะรักเราเคียงข้างกันหมั่นเชื่อมั่น, ผมรักคุณ สุดที่รักของผม


No man is useless while he has a friend.
ไม่มีใครไร้ซึ่งคุณประโยชน์ ตราบใดที่เขายังมีเพื่อน


Friendship is one mind in two bodies.
มิตรภาพคือหนึ่งจิตใจในสองร่างกาย


True friendship is never serence.
มิตรที่แท้ไม่เคยสงบนิ่ง


A simple friend has never seen you cry. A real friend has shoulders soggy from your tears.
เพื่อนทั่วไปไม่มีวันได้เคยเห็นคุณร้องไห้ แต่เพื่อนแท้ต้องไหลเปียกเพราะน้ำตาของคุณ


friend is....Someone who's smile helps when the roads are rough and long.
เพื่อนคือ....ใครคนหนึ่งซึ่นยินดีช่วยเสมอ เมื่อเราพบเจอบางจังหวะของเส้นทางที่ขรุขระและทอดยาวไกลนัก

6.1.51

กลอน

May each day in this year be a good day and may all of your hopes turn to wishes and may all of your wishes come true. Happy New Year to You!
ขอให้ทุกวันตลอดปีนี้ เป็นวันที่แสนดี และขอให้ทุกความหวังของเธอ กลายเป็นความปรารถนา และทุกปรารถนานั้น ขอให้พลันเป็นจริง สุขสันต์วันปีใหม่จ้ะ!

Have a glorious New Year!
ขอให้มีปีใหม่ที่รุ่งโรจน์นะ!

Wishing you the most joyous Holiday and a New Year filled with Peace and Prosperity.
อวยพรให้เธอมีความสุขที่สุดในเทศกาลปีใหม่ ขอให้ปีนี้เต็มเปี่ยมไปด้วย ความสุขสงบและความเจริญรุ่งเรือง

Wish you a very beautiful New Year and hope it's very special for you.
อวยพรให้เธอมีวันปีใหม่ที่สวยสดงดงาม และหวังว่าจะเป็นช่วงเวลาที่แสนวิเศษสำหรับเธอ

For the next year and all the corning years within joy and happiness. Happy New Year!
สำหรับปีต่อๆ ไปและปีที่กำลังจะมาถึง ขอให้มีแต่ความสุขสดชื่น สุขสันต์วันปีใหม่จ้ะ!

Make your feeling clear This New Year!
ทำอารมณ์ให้ใสในปีใหม่นี้นะจ๊ะ!

Merry Christmas! May all your Christmas dreams come true.
สุขสันต์วันคริสต์มาส! ขอให้ความฝันวันคริสต์มาสของเธอ จงกลายเป็นจริงนะจ๊ะ

Have a holiday filled with fun and joy with the ones you love.
ขอให้เทศกาลแห่งความสุขนี้ มีแต่ความสนุกสนานและร่าเริงกับคนที่เธอรัก

Wishing you a very Happy New Year and a year that fulfills all your wishes.
อวยพรให้เธอมีความสุขมากๆ ในปีใหม่ และพบกับปีที่เต็มไปด้วย ความสมหวังดั่งใจปองนะจ๊ะ

Sending special wishes to a favorite friend Happy New Year!
ฝากความปรารถนาดีที่แสนพิเศษ มอบแด่เพื่อนคนโปรดของฉัน สุขสันต์วันปีใหม่นะจ๊ะ!

Merry Christmas and Happy New Year!
สุขสันต์วันคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่

1.1.51


May each day in this year be a good day and may all of your hopes turn to wishes and may all of your wishes come true. Happy New Year to You!
ขอให้ทุกวันตลอดปีนี้ เป็นวันที่แสนดี และขอให้ทุกความหวังของเธอ กลายเป็นความปรารถนา และทุกปรารถนานั้น ขอให้พลันเป็นจริง สุขสันต์วันปีใหม่จ้ะ!